เวลาที่เรา bet ไปที่ flop เราได้กดดันให้คู่ต่อสู้ fold บาง hand ไปได้ ซึ่งเป็นการทำให้ range ของคู่ต่อสู้แคบและแข็งขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ และเมื่อเรา bet ไปอีกครั้งที่ turn คู่ต่อสู้ก็ควรจะ fold hand ที่อ่อนที่สุดของเขา และทำให้ range ของเขายิ่งแคบลงไปอีก เมื่อเราไปถึง river หลังจากที่ได้ bet ไปแล้วทั้งที่ flop และ turn และยังถูก call มาได้ Villain ก็มีโอกาสอย่างมากที่จะมี made hand ที่แข็งพอ และไม่มี air ยกเว้นแต่พวก missed draw ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่เราจะ bet ไปอีกที่ river ด้วย medium strength hand ถ้าเราทำอย่างนั้น คู่ต่อสู้ก็สามารถ fold พวก missed draw หรืออะไรที่แย่กว่า และจะ call ต่อเมื่อมี hand ที่ชนะเราได้ นี่คือความหมายของ bad beat มันค่อนข้างจะเหมือนการเล่น Russian Roulette อยู่บ้าง อาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น (คู่ต่อสู้ fold) หรือเราต้องหัวร้อน (โดน call ด้วย hand ที่ดีกว่า) นั่นหมายความว่าเราไม่ได้อะไรจากการ bet นี้เลย
ทำความเข้าใจ Polarised Range
Polarise betting range คือการ bet ด้วย strong hand (ซึ่งคาดว่าจะนำถ้าถูก call) หรือไม่ก็ weak hand (ซึ่งสามารถทำให้หลายๆ hand ที่ดีกว่าของคู่ต่อสู้ fold ไปได้) ซึ่งปกติจะเรียกกันว่า “value betting” และ “bluffing” polarised betting range จะไม่มี medium strength hand มันจะไม่ bet ด้วย hand ใดๆเพียงเพื่อ deny equity กับ hand ที่แย่กว่าใน range ของคู่ต่อสู้ ตัวอย่างเช่น หลังจากที่ได้ c-bet ไปที่ flop พอมาที่ turn เราก็ได้ bet ไปอีกครั้งด้วย JJ บน A64K ถึงแม้ว่าเราสามารถ deny equity ได้เล็กน้อยจาก hand อย่าง 88 ด้วยการทำให้ fold ไปได้เพราะมีเพียง 2 out ที่จะ improve ต่อได้ แต่มันเป็นการแลกเปลี่ยนที่ไม่คุ้มค่า เพราะ JJ ไม่ใช่ value bet และก็ไม่ใช่ bluff ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราจะ check เพราะในสถานการณ์นี้เราต้องการ bet ด้วย polarised range หลังจากที่คู่ต่อสู้ได้ call flop bet มาซึ่งทำให้ range ของเขาแข็งแกร่งขึ้น เราจะ bet turn ด้วย Ax+ เพื่อ value (เช่น AJ) และ bluff ด้วย hand ที่ไม่มี showdown value อย่าง QJ
เมื่อ Villain call bet ของเรามาได้ คุณภาพของ hand ที่เราจะ value bet บน street ต่อๆไปจะต้องแข็งขึ้น ยิ่ง range ของคู่ต่อสู้แคบลงและแข็งแกร่งขึ้น range ของเราก็ควรจะยิ่ง polarise มากขึ้นตามไปด้วย
การเล่นกับ Polarised Range
เมื่อเจอกับ polarised range เราจะ raise น้อยมากเพราะคู่ต่อสู้ได้กำหนด hand ของเขาว่าจะแข็งมากๆหรือไม่ก็อ่อนมากๆไปเลย เราแทบไม่ได้ประโยชน์จากการ raise ถ้าเจอกับ nut และเราก็ไม่จำเป็นต้อง raise เพื่อเอาชนะ bluff การ rasie ใส่ polarised range ก็มักจะเป็นการเสียเงินมากขึ้นให้กับ strong hand ของคู่ต่อสู้ หรือเป็นการเล่นที่ไม่จำเป็นถ้าเจอกับ bluff เราอาจเคยขำกับพวก beginner ที่บอกว่า raise ไพ่คู่เพราะคิดว่าคู่ต่อสู้กำลัง bluff การ raise ใส่ polarised range บ้างก็สามารถทำได้ แต่เราควร raise ด้วย range ที่ polarise มากยิ่งขึ้น ถ้า range ของคู่ต่อสู้นั้น polarise มากๆ เช่น ถ้าเขา over-bet ที่ turn เราก็ควรจะใช้กลยุทธ์การเล่นโดย call หรือ fold เพราะแทบไม่มีประโยชน์อะไรที่จะ raise ใส่ nut หรือ air
เมื่อไหร่ที่คู่ต่อสู้ใช้ Polarised Range
Player เก่งๆมักจะใช้ polarise range ตอนที่:
- Bet ใหญ่ๆที่ street หลังๆ
- Raise flop bet
- Raise ที่ turn
- Raise ที่ rive
- rOver-bet pot
- 3-bet จาก big blind
แต่ player อ่อนๆอาจจะไม่ polarise ในแอคชั่นพวกนี้เลย เพราะพวกเขายังไม่เข้าใจเหตุผลในการ bet ได้ดีพอ
ทำความเข้าใจ Merged Range
Merged betting range คือการใช้ medium strength hand และ strong hand และ bluff การใช้พวก medium strength hand อาจเป็น hand ที่ thin value bet หรือ made hand ที่มีความเสี่ยงซึ่งจะ bet เพื่อ deny equity กับบาง hand ที่อ่อนกว่าใน range ของคู่ต่อสู้ มักเป็นการเล่นที่ถูกต้องที่จะ bet ด้วย merge range ที่ flop เนื่องจาก range ของคู่ต่อสู้ยังไม่ได้ถูกกรองและยังกว้างมากๆ เช่น เมื่อเรา c-bet ด้วย AQ ที่ flop อย่าง 855 เรากำลัง bet ด้วย merged range hand นี้ยังไม่ใช่ value-bet ที่ชัดเจนเพราะมันจะไม่นำถ้าถูก call แต่ก็ไม่ใช่ bluff เพราะมันไม่สามารถ fold hand ที่ดีกว่าได้ สิ่งที่ได้จากการ bet นี้โดยหลักๆแล้วจะมาจากการทำให้คู่ต่อสู้ fold hand ที่แย่กว่า เราเรียกมันว่า “การป้องกัน” หรือ “equity denial”
เราสามารถ bet ด้วย merged range ในเวลาที่ range ของคู่ต่อสู้ยังกว้างอยู่มาก แต่ถ้าคู่ต่อสู้เริ่ม call bet ของเรามา range ของเขาก็จะเริ่มแคบลง และเราจำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้ polarised strategy
การเล่นกับ Merged Range
Merge betting range จะมี weak hand, medium hand อยู่ค่อนข้างมาก และมี strong hand อยู่บ้าง เป็นเหตุผลให้มีการเล่นที่ตรงข้ามกับการเจอ polarised range โดยเรามีแรงจูงใจที่จะ aggressive raise กับ merged range เราสามารถ thin value raise เพราะคู่ต่อสู้สามารถ bet/call ด้วย hand ที่ค่อนข้างแข็ง(แต่ยังอ่อนกว่า hand ของเรา) ยิ่งไปกว่านั้น…คู่ต่อสู้สามารถจะ bet/fold บาง hand ที่ค่อนข้างอ่อนแต่อาจมาเอาชนะเราที่ showdown ได้
ยิ่งคู่ต่อสู้ bet ด้วย merged range มากเท่าไหร่ เราก็ควร raise ด้วย merge range ที่มากขึ้นเท่านั้น
เมื่อไหร่ที่คู่ต่อสู้ใช้ Merged Range
Player เก่งๆมักจะใช้ merged range ตอนที่:
- Bet เล็กลงที่ river (นี่จะยังเป็นเหมือน polarise อยู่บ้าง แต่จะเป็น merged มากกว่าที่ใช้ bet ใหญ่ๆ)
- C-bet flop เล็กๆ
- Raise preflop ที่ button
- Call bet
- Check ในเวลาที่สามารถ bet ได้
Player อ่อนๆอาจมี merged range ในจังหวะที่เล่น aggressive กว่านี้
บทสรุป
สรุปแนวคิดหลักๆคือ แอคชั่นที่ยิ่ง aggressive ควรแสดงถึง range ที่ยิ่ง polarised และเราควรเล่นอย่าง passive เมื่อเจอกับ polarised range และเล่นอย่าง aggressive เมื่อเจอกับ merged range
Source:
Hand Reading for Beginners – Polarised Ranges vs. Merged Ranges
https://www.pokerstarsschool.com/strategies/the-game-theory-of-board-texture-part-1-low-dry-flops/
Picture:
https://www.microgrinder.com/poker-strategy-articles/3-betting-101/